5 ขั้นตอนเพื่อความปลอดภัยในการขับรถโฟล์คลิฟท์

5 ขั้นตอน เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน รถโฟล์คลิฟท์

รถโฟล์คลิฟท์ เป็นพาหนะผ่อนแรง ที่มีความสำคัญ ในการจัดการสินค้า ในด้านการผลิต และ การขนส่งสินค้า เป็นอย่างมาก สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม หรือคลังสินค้าต่าง ๆ นอกจาก เรื่องของอุปกรณ์ ที่ต้องนำมาติดตั้ง เช่น ชั้นวางสินค้า, เสาเหล็กกั้นรถ, กระจกโค้งจราจร,
ยางชะลอความเร็ว ฯลฯ เรายังมักพบว่าอีกสิ่งที่มักเห็นคู่กัน และมีความจำเป็นอย่างมากในการนำมาใช้งานก็คือรถโฟล์คลิฟท์ ด้วยรถชนิดนี้ คือ รถที่เอาไว้
สำหรับอำนวยความสะดวก ในการเคลื่อนย้ายสินค้าต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะหนัก หรืออยู่สูงขนาดไหน หากมีการจัดวางบนพาเลทอย่างเหมาะสม การ
เคลื่อนย้าย ด้วยรถโฟล์คลิฟท์ จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุด จะกลายเป็นเรื่องง่ายทันที ทว่าการใช้งานรถประเภทนี้ ก็จำเป็นต้องเรียนรู้ เรื่องของขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อ
เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน และคนรอบข้างด้วย เซฟตี้อินไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญ เพื่อให้เกิดการขับรถโฟล์คลิฟท์ หรือ การขับรถยกอย่างปลอดภัยและถูกวิธี จะมาแนะนำขั้นตอนต่าง ๆ ในการเพิ่มความปลอดภัย สำหรับคนที่ต้องใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ ว่าควรทำอย่างไรบ้าง    

"รถยก " หมายความว่า รถที่ติดตั้ง อุปกรณ์ใช้สำหรับการยก หรือเคลื่อนย้าย
สิ่งของ เช่น ฟอร์คลิฟต์ (forklift) รถโฟล์คลิฟท์ หรือรถ ที่ทำงานในลักษณะเดียวกัน

1. ศึกษาการใช้งาน รถโฟล์คลิฟท์ อย่างละเอียดที่สุด

5 ขั้นตอนเพื่อความปลอดภัยในการขับ รถโฟล์คลิฟท์

ศึกษาการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์อย่างละเอียดที่สุด  การขับรถโฟล์คลิฟท์ บางคน อาจมองว่าคล้ายกับการขับรถยนต์ หรือ รถบรรทุกทั่วไป จริง ๆ ในพื้นฐาน
เรื่องการขับ มันอาจไม่ได้ต่างกันมากนัก ทว่าเรื่องทักษะในการขับขี่ จำเป็นต้องมีการเรียนรู้ ให้ละเอียดและเข้าใจมากกว่าปกติ ด้วยลักษณะของรถ ที่มีความ
แตกต่าง การเข้าเกียร์, การใช้คันโยกในการยก, ขับเดินหน้า ถอยหลัง, ระบบขับเคลื่อน ทุกอย่างจำเป็นต้องศึกษา อย่างดีที่สุด ก่อนไปปฏิบัติงานจริง ไม่อย่าง
นั้น หากใช้งานอยู่แล้ว เกิดปัญหาไม่รู้ว่าต้องแก้ไขตรงไหนอาจทำให้เกิดความเสียหาย จนกลายเป็นเรื่องใหญ่โตเอาได้ง่าย ๆ เลย 

2. ตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์กับอุปกรณ์ต่าง ๆ

5 ขั้นตอนเพื่อความปลอดภัยในการขับ รถโฟล์คลิฟท์

ตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ก่อน และหลังใช้งานทุกครั้ง รวมถึงมีการตรวจสภาพรถเป็นประจำด้วย เริ่มที่เรื่องการตรวจสภาพรถโฟล์คลิฟท์ กันก่อน รถโฟล์คลิฟท์ หากมีการใช้งานประจำ ก็ต้องมีการตรวจสภาพ ไม่ต่างกับรถยนต์ ที่เราขับเลย เพียงแต่การตรวจ อาจต่างกันในบางจุดเท่านั้น เมื่อเป็น
อย่างนี้ พอถึงเวลาตรวจเช็ค ก็ควรเรียกช่างมาจัดการ หรือไปยังศูนย์บริการก็ได้ กระนั้นแม้ว่ารถโฟล์คลิฟท์ ที่เราใช้งานจะมีการตรวจสอบสภาพประจำปีอยู่
แล้ว แต่ทุกครั้งก่อนการใช้งาน ต้องมีการตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ และ อุปกรณ์ต่าง ๆ ก่อนเสมอว่าพร้อมใช้งานหรือไม่ หากพบว่ามีบางจุดเสี่ยง ต่อการเกิด
ปัญหาก็ควรรีบแก้ไขก่อน เช่นเดียวกัน เมื่อใช้งานเสร็จแล้วต้องตรวจสอบให้ดีด้วยว่ามีอุปกรณ์ตรงไหนชำรุด จากการนำไปใช้เมื่อครู่หรือไม่ ถ้ามีก็ต้องรีบ
แก้ไขทันที  

" หากคุณกำลังมองหาที่อบรม สอนตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ รถโฟล์คลิฟท์ อบรมที่ เซฟตี้อินไทย ราคา 1800 บาท ใช้เวลาอบรม 1 วัน"

3. เลือกใช้อุปกรณ์เสริมอย่าง Red Zone Danger Warning Light

5 ขั้นตอนเพื่อความปลอดภัยในการขับ รถโฟล์คลิฟท์

เลือกใช้อุปกรณ์เสริมอย่าง Red Zone Danger Area Warning Light แม้บางคนบอกว่า มีการติดตั้ง เสาเหล็กกั้นรถ เอาไว้แล้วเวลายืนเช็คของก็ยืนตรงนั้นก็ได้ ทว่าบางทีมันอาจมีอะไรที่เรา คาดไม่ถึงได้เสมอ ดังนั้นอุปกรณ์ตัวนี้ จะทำให้เรารู้ว่าเราควรยืนห่างจากรถโฟล์คลิฟท์ด้วยระยะทางประมาณเท่าไหร่ ลักษณะคือเพียงแค่ติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวไว้ ตรงด้านข้างกับด้านหน้า และหลังของรถ ตั้งระยะห่าง  ที่แสงจะปล่อยออกมาให้เหมาะสม จากนั้นก็เปิดสวิตช์ให้แสงทำงาน ตัวแสงที่ส่งออกมาจะ ทำให้คนรอบข้างรู้ระยะของรถโฟล์คลิฟท์ ว่าเวลารถเลี้ยวจะกินพื้นที่เท่าไหร่ รวมถึงคนขับเอง ก็จะรู้ว่าทางข้างหน้า หากพวกเขาจะเลี้ยว มันพ้นถนน หรือไม่ เรียกว่าช่วยกะระยะ ให้ทั้งคนที่ขับ และคนรอบข้าง ให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น ไม่เสี่ยงต่อการโดนชนหรือการขับไปชนสิ่งต่าง ๆ 

4. มีสติทุกครั้ง ในการใช้งาน และไม่หยอกล้อกัน

5 ขั้นตอนเพื่อความปลอดภัยในการขับ รถโฟล์คลิฟท์

มีสติทุกครั้งในการใช้งาน และไม่หยอกล้อกัน อีกขั้นตอน ความปลอดภัยของการใช้ รถฟอล์คลิฟท์ คือ ต้องมีสติในการใช้งานอยู่เสมอ รู้ว่าตอนนี้กำลังใช้
งานตรงไหน พื้นที่รอบข้างเป็นอย่างไร กำลังยกของหนักไปไว้ที่สูงต้องตั้งใจ เป็นต้น พูดง่าย ๆ ว่าหากมีสติ และรู้หมดทุกขั้นตอน ในการปฏิบัติจะช่วยเพิ่ม
ความปลอดภัย ให้กับผู้ใช้งาน และ คนรอบข้างได้อย่างแน่นอน อีกเรื่อง คือ ระหว่างใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ ไม่ควรมีการหยอกล้อกันเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิด
ความประมาท พลั้งเผลอ จนกลายเป็นอุบัติเหตุเอาได้ง่าย ๆ

5. มีการกะน้ำหนักสินค้า ที่จะยกทุกครั้ง

5 ขั้นตอนเพื่อความปลอดภัยในการขับรถโฟล์คลิฟท์

มีการกะน้ำหนักสินค้า ที่จะยกทุกครั้ง  การใช้งานรถฟอล์คลิฟท์ เพื่อยกสิ่งต่าง ๆ ไม่ใช่คิดว่ารถโฟล์คลิฟท์ จะต้องยกได้หมดในทุกระดับน้ำหนัก ต้องตรวจสอบให้ดี
ด้วยว่า น้ำหนักที่ยกนั้น หนักเกินกว่ากำลังการใช้งาน หรือไม่ เพราะถ้าหนักเกินไปตอนแรก ๆ อาจยังพอยกได้ แต่พอใช้แบบนั้นไปนาน ๆ จะส่งผลระยะยาว
กับรถโฟล์คลิฟท์ หรือบางที่คานยกเกิดหักยิ่งทำให้เกิดอันตรายได้ง่ายกว่าเดิม หรือบางครั้ง รู้อยู่แล้วว่ายกเกินน้ำหนัก แต่ชอบคิดทำนองว่า แค่ครั้งเดียวเอง คงไม่เป็นไร พอยกขึ้นสูงหน่อย ของหล่น หรือ คานหัก เพราะรับน้ำหนักไม่ไหว ก็กลายเป็นอันตรายอีก ดังนั้นมาตรฐานเรื่องน้ำหนักการยกเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจให้ดี ที่สุด เรื่องของความปลอดภัย คือ สิ่งสำคัญโดยเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรม หรือ คลังสินค้า ที่มีการใช้งาน รถโฟล์คลิฟท์

ดังนั้น การขับรถโฟล์คลิฟท์ เป็นสิ่งทีแต่ละองค์กร จะต้องตระหนัก และให้ความสำคัญ ต่อการส่งเสริมความรู้ แก่ผู้ขับโฟล์คลิฟท์ ในเรื่องการเตรียมความพร้อม และมาตรฐานการใช้งาน ตลอดจนความรู้ในการขับขี่อย่างปลอดภัย เพื่อส่งเสริม ให้เกิดความปลอดภัยในการทำงาน ต่อไป จำเป็น ต้องมีการจัดให้มีการอบรมโฟล์คลิฟท์ เพื่อความปลอดภัย ในการปฏิบัติงาน และเป็นไปตามการพัฒนาบุคคลากร ที่ ISO9001 กำหนด  

อบรมโฟล์คลิฟท์ หลักสูตรการขับรถ forklift ใบเซอร์รถโฟล์คลิฟท์ อบรมขับรถโฟล์คลิฟท์
อบรมรถยก อบรม forklift อบรมการขับรถโฟล์คลิฟท์ ทําใบเซอร์โฟคลิฟ ชลบุรี เรียนขับโฟล์คลิฟท์ ใบเซอร์โฟล์คลิฟท์สอบที่ไหน

ติดต่อเรา

  ที่ตั้ง:
7/77 หมู่ 5 ต.ห้วยกะปิ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี 20130

ติดตามเรา

ข้อตกลงและเงื่อนไข เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

ตกลง